+66 ( 053-679085 )
mjdmai57260@hotmail.com
องค์การบริหารส่วนตำบลแม่เจดีย์ใหม่

ข่าวสารประชาสัมพันธ์

ข่าวสาร -> ข่าวสารประชาสัมธ์

ประชาสัมพันธ์ข่าวสารประโยชน์ของกรดโฟเลต (หรือ วิตามินบี 9 )


โฟลิกกับการตั้งครรภ์ สารอาหารที่สำคัญต่อแม่และทารกในครรภ์ กรดโฟลิก หรือวิตามินบี 9 เป็นสารอาหารที่สำคัญในกระบวนการสร้างสารพันธุกรรมดีเอ็นเอ ซึ่งสำคัญต่อการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ การปฏิสนธิและการตั้งครรภ์ โดยศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐอเมริกา (Centers for Disease Control and Prevention, CDC) แนะนำให้หญิงที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ทุกคน ได้รับกรดโฟลิกเสริมวันละ 0.4 - 0.8 มิลลิกรัม เพื่อป้องกันภาวะพิการทางระบบประสาทจากหลอดประสาทไม่ปิดในเด็ก โดยปกติแล้วการพัฒนาของทารกในครรภ์ตอนอายุครรภ์ประมาณ 2 สัปดาห์ จะมีการสร้างหลอดประสาทซึ่งจะพัฒนาไปเป็นสมองและไขสันหลังของทารกในอนาคต กรณีที่ฝ่ายหญิงขาดกรดโฟลิก อาจทำให้การพัฒนาของหลอดประสาทไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดความพิการแต่กำเนิดของสมองและไขสันหลัง เช่น ภาวะทารกไม่มีสมอง (anencephaly) ซึ่งไม่สามารถมีชีวิตรอดได้หลังคลอด หรือมีก้อนยื่นที่บริเวณแนวสันหลังซึ่งจำเป็นต้องรับการรักษาด้วยการผ่าตัดหลังคลอด โฟลิกเป็นสารอาหารที่มีมากในผักผลไม้สด เช่น ดอกกะหล่ำ ดอกและใบกุยช่าย มะเขือเทศ แตงกวา หน่อไม้ฝรั่ง ส้ม องุ่นเขียว สตรอเบอรี่ ถั่วเมล็ดแห้งต่าง ๆ เช่น ถั่วลิสง ถั่วเหลือง ตับ แต่โฟลิกจะถูกทำลายได้ง่าย เมื่อถูกความร้อนเป็นเวลานานในการปรุงอาหาร ถ้ากินอาหารหรือปรุงอาหารไม่ถูกต้อง อาจทำให้ร่างกายได้รับโฟลิกไม่เพียงพอ โดยในประเทศไทยมีการศึกษาพบว่า สตรีไทยอายุระหว่าง 15 – 45 ปี ร้อยละ 65.5 มีระดับโฟลิกในเลือดต่ำกว่าปริมาณที่เหมาะสม ไม่เพียงแต่การป้องกันความพิการในบุตรเท่านั้น จากการศึกษาในระยะหลังยังพบว่า การรับประทานโฟลิกมีผลดีต่อการมีบุตร อาจช่วยให้มีบุตรง่ายขึ้น ลดภาวะไข่ไม่ตก ภาวะแท้ง รวมถึงพบว่า ช่วยเพิ่มอัตราการตั้งครรภ์ในผู้มาทำเด็กหลอดแก้วด้วย โดยผลดังกล่าวจะเกิดในกรณีที่ได้รับโฟลิกเสริมในปริมาณที่มากกว่าขนาดที่ป้องกันความพิการในบุตร ในการศึกษากลุ่มหญิงมีบุตรยากที่ทำเด็กหลอดแก้ว พบว่า กลุ่มที่รับประทานโฟลิกมากกว่า 0.8 มิลลิกรัมต่อวัน มีอัตราความสำเร็จของการมีบุตรสูงกว่ากลุ่มที่รับประทานโฟลิกน้อยกว่า 0.4 มิลลิกรัมต่อวัน โดยสรุปแล้วแนะนำให้ผู้ที่เตรียมความพร้อมก่อนมีบุตร รวมถึงผู้มีบุตรยากฝ่ายหญิงรับประทานโฟลิกเสริม เพื่อลดการเกิดความพิการทางระบบประสาทจากหลอดประสาทไม่ปิดในบุตร และเพิ่มภาวะการเจริญพันธุ์ โดยแนะนำให้หญิงวัยเจริญพันธุ์ทุกคนที่เตรียมพร้อมจะตั้งครรภ์ ควรได้รับโฟลิกอย่างน้อยวันละ 400 ไมโครกรัม

สมัครรับจดหมายข่าวของเรา

รับอีเมลอัปเดตเกี่ยวกับร้านค้าล่าสุดและข้อเสนอพิเศษของเรา